วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

จันทรวรรณ อยู่เลิศสุขอนันต์


ตำแหน่ง ครูชำนาญการ โรงเรียนช่องพรานวิทยา อ.โพธาราม จ. ราชบุรี

ประวัติการศึกษา
ป.กศ.สูง (เอกภาษาอังกฤษ) วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง ราชบุรี
ค.บ. (เอกภาษาอังกฤษ) วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง ราชบุรี
กศ.ม. (หลักสูตรและการสอน) มหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก

การปฏิบัติงานในหน้าที่
ปฏิบัติการสอนวิชาภาษาอังกฤษ

งานที่ได้รับมอบหมาย
- หัวหน้าฝ่ายบริหารงบประมาณ
- หัวหน้างานธุรการและสารบรรณ
- หัวหน้างานการนิเทศการศึกษา

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ส่งงาน ผศ. สมคิด ดวงจักร์

วิชา 1065114 การจัดการนวัตกรรมและสารสนเทศ
1. ท่านสามารถประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศในองค์กรของท่านได้อย่างไร บอกกรอบความคิด ขั้นตอน ผลกระทบให้เห็นกระบวนการคิดของท่านทั้งระบบ

ตอบ ปัจจุบันระบบสารสนเทศได้มีบทบาทอย่างมากมายในด้านการบริหารงานต่าง ๆ ทั้งในหน่วยงานของรัฐบาลและเอกชน เนื่องจากสามารถสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว แม่นยำ มีข้อผิดพลาดน้อยมากที่โรงเรียนช่องพรานวิทยา สามารถประยุกต์ใชระบบสารสนเทศโดยการจัดวางระบบสารสนเทศขึ้น ครอบคลุมถึงการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้เป็นเครื่องมือช่วยให้การบริหารจัดการระบบการศึกษา ให้บุคลากรได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มาช่วยในการปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการจัดการเรียนการสอน และด้านการบริหารงานในโรงเรียน ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานในโรงเรียน 4 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายบริหารงานวิชาการ ฝ่ายบริหารทั่วไป ฝ่ายบริหารบุคคล และฝ่ายบริหารงบประมาณ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว รวดเร็ว ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ มีการนำระบบคอมพิวเตอร์เครือข่ายมาใช้ ได้แก่ การใช้โปรแกรมลงเวลาของบุคลากรครูโดยใช้รหัสประจำตัว การสแกนลายนิ้วมือของนักเรียนที่มาโรงเรียน การจัดทำฐานข้อมูลทะเบียนประวัตินักเรียน งานทะเบียนวัดผล การทำข้อมูลสารสนเทศการประกันคุณภาพการศึกษา การจัดทำแผนปฏิบัติการ งานธุรการ-สารบรรณ มีการรับส่งหนังสือและรายงานข้อมูลต่าง ๆ ผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ตกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาราชบุรีเขต 2 การรับส่งข้อมูลทางแฟกซ์ โปรแกรมลงทะเบียนคุมพัสดุครุภัณฑ์ การจัดทำข้อมูลงานการเงินการบัญชีของโรงเรียน การจัดทำฐานข้อมูลทะเบียนประวัติบุคลากรในโรงเรียน ข้อมูลงานสารสนเทศ ด้านการจัดการเรียนการสอน ได้ปรับปรุงรูปแบบการจัดศึกษา เน้นการพัฒนาวิธีการเรียนรู้ ความคิด และกระบวนการที่รวดเร็วต่อสารสนเทศ การใช้รูปแบบการสอนแบบยืดหยุ่นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ จัดสภาพแวดล้อมทางการเรียนและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านเทคโนโลยี ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเรียน มากกว่าการสอนโดยใช้โครงสร้างการเรียนแบบยืดหยุ่น พัฒนาเทคนิคการใช้คอมพิวเตอร์ และมัลติมีเดียเพื่อการเรียนการ สอน ได้นำคอมพิวเตอร์และเครื่องมือประกอบ ช่วยในการเรียนรู้ เช่น วีดีทัศน์ เครื่องฉายภาพ นำเอาบทเรียนมาบรรจุไว้ในคอมพิวเตอร์ ในรูปของบทเรียนโปรแกรม บทเรียนสำเร็จรูป บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา จัดตารางสอน คำนวณระดับคะแนนประมวลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จัดชั้นเรียน จัดทำเว็บไซต์ของโรงเรียนเผยแพร่ผลงานนักเรียน ของครู และกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน เว็บของครูผู้สอน ฝ่ายบริหารทุกฝ่ายจัดทำฐานข้อมูลสารสนเทศของฝ่าย เพื่อให้ผู้บริหารสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งเป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจและการควบคุม ตรวจสอบ
กรอบความคิด และขั้นตอนการประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศ

ในการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อใช้ในการปฏิบัติงานในองค์กร/หน่วยงาน ต้องประกอบด้วยปัจจัยเหล่านี้ ได้แก่ ผู้ใช้ระบบ การวางแผน การทดสอบ การจัดเก็บเอกสาร การเตรียมความพร้อม การตรวจสอบและประเมินผล การบำรุงรักษา และอนาคต โดยมี ขั้นตอน ดังนี้

1. ค้นหาครู-อาจารย์ที่ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนหรือเชิญผู้ที่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์จากภายนอกโรงเรียนมาเป็นวิทยากร ให้การอบรมเพิ่มพูนความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ แก่ครู-อาจารย์ในโรงเรียน
2. จัดทำโครงการวางระบบ ICT ในโรงเรียนทั้งในส่วนที่เป็น Hardwares และSoft wares วางระบบICT ในโรงเรียนให้กับทุกกลุ่มงาน และทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้สามารถใช้งานได้อย่างทั่วถึง ให้ครู-อาจารย์ที่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ สามารเลือกใช้โปรแกรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ทุกหน่วยงานในโรงเรียนให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เช่นโปรแกรมการประเมินผลการเรียนรู้ (Bookmark) ของ นักเรียนในโรงเรียนให้ทุกหน่วยงานสามารถใช้หรือประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนในหน่วยงานของตนได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปทำที่ห้องทะเบียน-วัดผล และยังสามารถทำที่บ้านได้อีกด้วย เป็นการอำนวยความสะดวก ประหยัดเวลา และได้ผลถูกต้องแม่นยำ ไม่ผิดพลาด
3. วางระบบเครือข่าย Internet ในโรงเรียน ให้นักเรียน ครู-อาจารย์ สามารถใช้ติดต่อ-รับรู้ข้อมูลข่าวสารจากภายนอกโรงเรียนได้ทั่วโลก อันเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของนักเรียน ครู-อาจารย์ เป็นการช่วยให้นักเรียน ครู-อาจารย์ สวามารถใช้ Internet ศึกษาค้นหาความรู้ได้ด้วยตนเอง
4. อบรม/ให้ความรู้ด้านอื่น ๆ แก่นักเรียน ครู- อาจารย์ในโรงเรียนเพิ่มเติม เช่น การทำ CAI การทำ Blog การทำ Web และอื่น ๆ ที่จำเป็น เพื่อให้ นักเรียน ครู-อาจารย์ สามารถใช้ติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ในด้านต่าง ๆ กับบุคคลอื่น ๆ ทั่วไปหรือทั่วโลกก็ว่าได้โดยผ่านทางอากาศซึ่งมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง
5. การตรวจสอบและประเมินผล มีการตรวจสอบและประเมินผลเพื่อการพัฒนา ปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดในการใช้เทคโนโลยี
6. การบำรุงรักษา เครื่องมือ อุปกรณ์ ทั้ง Hardwares และ Softwares ที่เกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศ จำเป็นต้องหมั่นดูแล ซ่อมและบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพที่พร้อมในการใช้อยู่เสมอ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลอย่างสูงสุด

จากกรอบความคิดและกระบวนการขั้นตอนในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในโรงเรียนช่องพรานวิทยา ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น ทำให้ นักเรียน ครู-อาจารย์ ในโรงเรียนช่องพรานวิทยา เป็นที่รู้จักของคนอื่น ๆ อีกมากมาย และคนที่นักเรียน ครู-อาจารย์ติดต่อด้วยก็จะรู้จักเช่นกัน มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ข้อมูล ข่าวสารต่าง ๆ ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อกัน ทำให้เกิดความก้าวหน้าทางด้านการศึกษาที่ไร้พรมแดน

ผลกระทบ

ในการประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศ มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดผลกระทบต่อองค์กรซึ่งมีทั้งทางบวกและทางลบ หลายด้าน ดังนี้

1. ความมีวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร เป็นปัจจัยที่กำหนดความสำเร็จหรือความล้มเหลว ของการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ ผู้นำหรือผู้บริหาร สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะก้าวกระโดดหรือการเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรม

2. สามารถเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงาน ทั้งการผลิตและการบริการ

3. ช่วยให้ผู้บริหาร สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วเป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจและการ ควบคุม

4. มีการกระจายโอกาสทางการเรียนรู้ สามารถเรียนรู้ตามความสนใจ ความถนัด การทำเครือข่ายอนุญาติให้ผู้เรียนเข้าถึงผู้สอน ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ให้ความรู้ ก่อให้เกิดความคิดที่อิสระในการเลือกศึกษาในสิ่งที่สนใจ ถือเป็นแรงจูงใจหนึ่งในการเรียบนรู้

5. เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านรูปแบบการศึกษาและด้านสภาพแวดล้อมทางการศึกษา เช่น การใช้เครือข่ายการเรียนรู้ มีการร่วมมือกันระหว่างโรงเรียน ชุมชน ครูและนักเรียน เป็นต้น

6. ผลกระทบด้านกฎหมาย ศีลธรรมและจริยธรรม การรับวัฒนธรรมที่แฝงเข้ามากับแหล่งข่าวสารข้อมูลใน รูปแบบต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสมก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมไม่พึงประสงค์และมีแนวโน้มให้เกิด อาชญกรรม ปัญหาทางศีลธรรมและจริยธรรม

7. งบประมาณไม่เพียงพอ เพื่อใช้ในการ ซ่อม บำรุงและการเพิ่มศักยภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ สมบูรณ์แบบ

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ผู้นำในองค์กร ควรที่จะตระหนักและเข้าใจถึงการประยุกต์ใช้ อีกทั้งเล็งเห็นคุณประโยชน์และความคุ้มค่าอย่างแท้จริงในการใช้และพัฒนาระบบการทำงานที่ประยุกต์มาจากเทคโนโลยีสารสนเทศ หลักสำคัญสำหรับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนั้น ควรเข้าใจและตระหนักถึงความจำเป็น ความคุ้มค่า และประโยชน์สูงสุด ต้องมองให้ละเอียดถี่ถ้วนด้วยว่า เทคโนโลยีสารสนเทศแต่ละประเภทมีศักยภาพหรือทำอะไรได้บ้าง แล้วจจึงนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมมาช่วยให้องค์กรสามารถทำงานในลักษณะใหม่ หรือนำมาใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่ประสบอยู่ จึงจะเกิดผลของการปรับปรุงในองค์กรอย่างแท้จริง

2. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการจัดทำแผนแม่บทด้านไอซีที(ICT) ฉบับที่ 2 ของรัฐบาลไทย จงสังเคราะห์ความรู้จากแผนแม่บทมาเป็นคำอรรถาธิบายให้แจ้งชัด

ตอบ เห็นด้วยกับการจัดทำแผนแม่บทด้าน ไอซีที (ICT) ฉบับที่ 2 ซึ่งประกอบด้วยยุทธศาสตร์หลัก 6 ด้าน คือ ยุทธศาสตร์ที่ 1 เรื่องการพัฒนากำลังคนด้าน ICT , ยุทธศาสตรที่ 2 เรื่องการบริหารจัดการระบบ ICT , ยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ ICT , ยุทธศาสตร์ที่ 4 การใช้ ICT ให้เกิดธรรมาภิบาลในการบริหารและการบริการภาครัฐ, ยุทธศาสตร์ที่ 5 เรื่องการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม ICT และยุทธศาสตร์ที่ 6 เรื่องการใช้ ไอซีที เพื่อสนับสนุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งเป้าหมายสำคัญของแผนแม่บท ฯ ฉบับที่ 2 นี้ก็คือ การพัฒนาคนให้มีความรู้ สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม สร้างระบบการบริหารจัดการ ICT ของประเทศและการใช้ ICT เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

จากการศึกษารายละเอียดประเด็นยุทธศาสตร์ สรุปได้ว่า มีจุดมุ่งหมายที่สำคัญ คือ การพัฒนาด้านกำลังคนด้าน ไอซีที ด้านการใช้ ไอซีที เพื่อสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การบริหารจัดการระบบ ไอซีที การใช้ ไอซีที ให้เกิดธรรมาภิบาลในการบริหารและการบริการภาครัฐ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ ไอซีที การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันอุตสาหกรรม ไอซีที อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า การดำเนินงานตามแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2552-2556 เรื่องหล้ก ๆ และมีความสำคัญมาก คือ การพัฒนากำลังคน ให้มีคุณภาพและมีปริมาณที่เพียงพอต่อการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อีกทั้งการพัฒนาระบบบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มีธรรมมาภิบาล จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนแม่บทและเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ฉบับที 2 นี้ จะเป็นยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง และเพื่อให้เกิดการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลก

3. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการใช้กระบวนการทางกฎหมาย(กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550) เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมในสังคมจากการใช้คอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด จงอภิปรายถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องให้เห็นเป็นรูปธรรม

ตอบ เห็นด้วยกับการใช้กระบวนการทางกฎหมาย(กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550) เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมในสังคมจากการใช้คอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด ซึ่งจะอภิปรายถึงประเด็นที่เกี่ยวข้อง ดังนี

พระราชบัญญัติฉบับนี้มีวัตถุประสงคเพื่อควบคุมระบบโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรให้เกิดสภาพ แวดล้อมการใช้งานที่ปลอดภัย กันระบบออกจากภาวะความเสี่ยงอันอาจเกิดจากการลักลอบจากภายในและการ คุกคามจากภายนอก อันเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับผู้ดูแลระบบ เพื่อให้สามารถปกป้องระบบขององค์กร เอาผิดต่อผู้ประสงค์ร้ายต่อระบบ พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือที่มั่นคง ระหว่างรัฐและหน่วยงานทางด้านไอที ต่าง ๆ ในการตรวจตราระบบให้มีความปลอดภัย

ณ เวลานี้ กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ได้มีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2550 ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพวกเรา....บรรดาผู้เกี่ยวข้อง ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั้งหลาย โดยเฉพาะชาวบล็อกเกอร์ทั้งหลาย ที่ต้องเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารเป็นประจำ...จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ควร(ต้อง)ทราบไว้

ความผิดอาญาตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ที่ทุกคนควรทราบ

1. เจ้าของไม่ให้เข้าระบบของเขา แล้วเราแอบเข้าไป จำคุก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (ตามมาตรา 5)

2. แอบไปรู้วิธีการเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น แล้วนำไปเผยแพร่ให้ผู้อื่นรู้ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ตามมาตรา 6)

3. ข้อมูลของผู้อื่น เขาเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ดีๆ แอบไปลักลอบล้วงข้อมูลของเขาออกมา จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 7)

4. เขาส่งข้อมูลหากันผ่านเครือข่าย คอมพิวเตอร์แบบส่วนตัว หากเราไปแอบดักจับข้อมูลของเขา มีโทษ จำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 8)

5. ข้อมูลของผู้อื่นเขา อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ หากเราทำการปรับเปลี่ยน แก้ไข(Modify) จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับื (มาตรา 9)

6. ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นทำงานอยู่ดี ๆ เราดันยิง packet sinv massage หรือ virus หรือ projan หรือ worm หรืออะไรก็ตามเข้าไปก่อกวนจนระบบเขาเกิดความเสียหาย ทำงานไม่ได้ มีโดทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 10)

7. หากคนอื่นเขาไม่อยากได้ข้อมูลหรืออีเมลล์จากเรา แต่เราทำตัวเซ้าซี้ ตื้อส่งให้เขาซ้ำ ๆ จนเขาเบื่อหน่าย รำคาญ มีโทษ ปรับ ไม่เกิน 100,000 บาท (มาตรา 11)

8. ถ้าเราทำผิด ตามข้อ 5 กับข้อ 6 แล้วทำให้เกิดความเสียหายกับตังเองและผู้อื่น มีโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท (มาตรา 12 (1))

- หากก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ เศรษฐกิจ และสังคม จำคุกตั้งแต่ 3-5 ปี และปรับตั้งแต่ 60000 -300,000 บาท แต่ถ้าทำให้ใครตาย จะปรับโทษเป็น จำคุกตั้งแต่ 10 ปีถึง 20 ปี

9. ถ้าเราสร้าง softwares เพื่อช่วยให้ใคร ๆ ทำเรื่อ แย่ ๆ ในข้อ 1-8 ได้ ...มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 13)

10. โป๊ , โกหก, ปลอมแปลง, กระทบความมั่นคง, ก่อการร้ายและส่งต่อข้อมูลทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผิดตามที่กล่าวมาข้างต้น มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตร 14)

11. ผู้ที่เป็นเจ้าของเว็บ แล้วสนับสนุน/ยอมให้เกิดตามข้อ 10 (ตามมาตรา14) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

12. ผู้ใดนำรูปของผู้อื่นมาตัดต่อแล้วนำไปโชว์ผลงานบนระบบคอมพิวเตอร์ หรือส่งต่อให้ผู้อื่นดู มีโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

13. หากเราซึ่งเป็นคนไทยทำผิดต่อเว็บไซต์ซึ่งอยู่เมืองนอก ก็มีความผิด เช่นเดียวกับฝรั่งที่อยู่เมืองนอกทำผิดกับเรา เราก็เอาผิดได้เหมือนกัน ตาม พ.ร.บ.นี้เช่นกัน

บทที่ 2 การสร้าง Weblog



ในเนื้อหาใน blog นั้นจะมีส่วนประกอบ 3 ส่วน คือ
1. หัวข้อ (Title)
2. เนื้อหา (Post หรือ Content)
3. วันที่เขียน (Date)